เวลาที่ตื่นจากหลับใหล…
ตื่นจากความฝันที่ไม่ดี ไม่สมหวัง
เมื่อรู้ชัดว่าฝันไป “เฮ้ย ตะกี้ฝันไป”
ความร่าเริง แจ่มใส จะเกิดขึ้น
โลกแห่งความเป็นไปได้เปิดกว้าง
ความจริงแล้ว…
ในยามที่เราตื่น เราก็อาจฝันอยู่
ความคิดในกรอบอดีตก็เหมือนฝัน
เพราะมันไม่ใช่ความจริงในปัจจุบัน
เรายังสามารถตื่นได้อีก
เราสามารถตื่นจากฝันได้ทุกขณะ
ในตอนที่ผมเป็นเด็ก ชั้น ป.5 ผมเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลทีมจังหวัด เราซ้อมหนักมาก แต่กลับสนุกมากกว่า ทุกครั้งที่ทีมเราต้องไปแข่งขันอุ่นเครื่อง กับทีมในระดับอำเภอในระแวกใกล้เคียง เราจะนั่งบนกะบะหลังรถปิ๊กอัพของโค้ช ฝนก็มักจะตกเทลงมา… เมื่อฝนตก เด็กๆ ร้องเพลงอย่างสนุก รับความเย็นชุ่มฉ่ำจากสายฝน ซึ่งนั่นเป็นความจริงแท้ของสายฝน เด็กๆ ไม่เคยมีกรอบว่า ต้องหลบฝน เพราะกลัวการเปียกปอน อยู่เลย
 |
|
ทีมวอลเล่ย์บอลรุ่นเยาว์ : เหรียญทอง (รอบคัดเลือกตัวแทนภาค) และ
เหรียญทองแดง (ระดับประเทศ) กีฬานักเรียนเทศบาลและเมืองพัทยา
|
เมื่อมีสติ ปรับใจ ให้พ้นจากกรอบอดีต และ ความคิดฟุ้งซ่านแห่งโลกอนาคต ความบริสุทธิ์แห่งปัจจุบันขณะ จะเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตสดใส และ เมื่อเราสามารถยิ้มต้อนรับปัจจุบันขณะ ยิ้มยินดีให้กับสติที่ดำรงอยู่ ยิ้มให้กับตัวตนบนความว่าง การยิ้มอย่างเบิกบานด้วยปัญญาเช่นนี้ อาจเรียกว่า สติซ้อนสติ กระชั้นกระชับ จากสติใน 1 ชั่วโมงนี้ เป็นสติใน 1 นาทีนี้ จากสติใน 1 นาทีนี้ เป็นสติ ณ ปัจจุบันขณะ นั่นคือ สภาวะแห่งการตื่น ที่รู้ว่าตื่น
