“ปกป้องน้ำหนึ่งหยดจากการแห้งเหือดได้อย่างไร?” เป็นคำถามจากภาพยนตร์เรื่อง SAMSARA (สังสารวัฏ) ที่ผู้เขียนได้ชมเมื่อหลายปีก่อน ในตอนท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้อาจมีคำตอบ แต่คำตอบนั้นก็ยังไม่ได้ช่วยให้ผู้เขียนเกิดความแจ่งแจ้งที่ใจ จึงทำให้ต้องกลับมาดูซ้ำ งานเขียนนี้ ผู้เขียนจะได้นำเสนอแบบเรื่องย่อ โดยบอกเล่าฉากสำคัญๆในภาพยนตร์ พร้อมทั้งการตีความเพิ่มเติม
0.01 | มีพญาเหยี่ยวบินโฉบไปมาอยู่บนท้องฟ้า (ณ ลาดัค ประเทศอินเดีย พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 15,000 ฟุต) ในขณะที่กองคาราวานที่นำโดยอโป ลามะเฒ่า และ โซนาม พระลูกศิษย์ กำลังเดินทางเพื่อไปรับ ทาชิ ลามะหนุ่มที่บำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำครบ 3 ปี 3 เดือน 3 วัน
วัฒนธรรมธิเบต เปรียบเปรยว่า เหยี่ยวหรือแร้งเป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย ความตายจ้องมองเราอยู่ |
01.15 | พญาเหยี่ยวได้โฉบลงมาจับก้อนหิน แล้วบินทะยานสูงขึ้นอีกครั้ง ก่อนปล่อยก้อนหินหล่นลงมา ภาพถ่ายจากมุมล่างขึ้นฟ้า ทำให้เห็นก้อนหินค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นๆ จนหล่นทับแกะตาย
รู้สึกว่า ความตายใกล้ตัว แต่มองไม่เห็น จนกว่ามันจะคืบคลานเข้ามาปรากฏ เราจึงจะเห็น คิดถึงสำนวน “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” |
8.07 | คณะลามะเดินทางมาถึงถ้ำ พบทาชิอยู่ในถ้ำ มีผมยาวเล็บยาว นั่งนิ่งราวกับก้อนหิน โซนาม กระซิบที่ข้างหูเรียก “ทาชิ เราจะนำท่านกลับ” ซึ่งหมายถึงกลับวัด จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้เสียงหมุนขอบระฆังเพื่อปลุกทาชิให้ตื่น ทาชิขยับเปลือกตาเล็กน้อย จากนั้น โซนามนำผ้าปิดตาทาชิ และ พาออกจากถ้ำได้เห็นถึงวิธีการปลุกคนที่อยู่ในสมาธิขั้นลึก |
12.20 | ระหว่างทางเดินทางกลับ เหล่าลามะช่วยกันปลงผม ตัดเล็บ สวมชุดจีวรให้กับทาชิ พร้อมทั้งร่วมกันสวดมนต์ให้ จนทาชิฟื้นตื่นลืมตาขึ้นมา |
12.39 | ขณะเดินทางผ่านพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ทาชินอนคว่ำบนหลังม้า ลืมตามองเห็นก้อนหินที่มีมนตราสลักเขียนเอาไว้ว่า “How can one prevent a drop of water from ever drying up?”
ปกป้องน้ำหนึ่งหยดจากการแห้งเหือดได้อย่างไร ? |
15.59 | วันหนึ่งในวัด ทาชิ กับ โซนาม แอบมองเด็กน้อย ที่ผู้ปกครองมาส่งให้อยู่วัด เด็กน้อยร้องไห้ และ บอกว่าอยากกลับบ้าน โซนามถามทาชิว่า ท่านร้องไห้รึป่าว ตอนที่พ่อท่านปล่อยท่านไว้ที่นี่ ทาชิ ทำท่าคิดในใจ แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกมา
ทาชิ บวชที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุ 5 ขวบ จนถึงตอนนี้ คือ 25 ปี |
16.39 | อโป ทาชิ และ โซนาม นั่งสมาธิด้วยกัน อโปผู้เป็นอาจารย์บอกเล่าว่า อีก 5 วันจะมี พิธีเริ่มต้นอันศักดิ์สิทธิ์ ของรินโปเช ลามะสูงสุด ท่านถามถึงทาชิในการเข้าร่วม ทาชิได้ยินดังนั้น จึงลืมตาขึ้น โค้งรับคำเชิญ |
17.30 | ในยามราตรี ขณะที่โซนามกำลังวาดรูปอยู่ ได้ยินเสียงครวญครางของทาชิ จึงเข้าไปดูตรงที่นอน พบว่าทาชิหลับใหลอยู่ในกามารมณ์ |
19.43 | ในยามเช้า ขณะทาชิซักจีวรของตัวเอง ใกล้ๆ กันนั้น โซนามกำลังโกนผมให้กับเณรน้อยที่มาบวชใหม่ โซนามเล่าถึงช่วงเวลาที่เจ้าชายสิทธิธัตถะ พบความทุกข์ จึงได้ตัดสินใจออกบวช ให้กับเณรน้อยฟัง เณรน้อยยังคงร้องไห้ ร้องอยากกลับบ้าน ทาชิยิ้มที่ได้ยินถ้อยคำนั้นจากเณร
เหตุการณ์ที่โซนามเล่า อาจจะสวนทางกับ ทาชิ ที่กำลังพบทุกข์จากไฟแห่งกามราคะในขณะที่เป็นสมณเพศ หาใช่เพราะเป็นฆราวาสไม่ |
21.20 | ในงานพิธีเริ่มต้นอันศักดิ์สิทธิ์ รินโปเช ลามะสูงสุด ได้มอบนามให้ทาชิว่า เคนโป เหล่าลามะจึงร่วมกัน สวดมนต์สรรเสริญ ทาชิกระหยิ่มยิ้มย่อง |
22.43 | ทาชิ พูดออกมาเป็นครั้งแรก เมื่อสุนัขสีดำตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในวัด มันมีชื่อว่า Kala มุดประตูเข้ามาในห้องพัก ทาชิพูดว่า “Kala, you monkey!” โซนามจึงอุทานเช่นกันว่า “ทาชิ ท่านพูดแล้ว!”
คำว่า monkey นั้น คล้ายกับคำว่า monk ตีความว่า เป็นการเปรียบเปรย เตือนใจให้ผู้ดำรงสมณเพศ ประพฤติตนให้เหมาะสม สมควรกับการเป็นสมณเพศ (monk) หากไม่ใช่ก็อาจถูกเรียกว่า ลิง (monkey) และ อาจเป็นนัยยะแทนกิเลส |
25.55 | ในงานพิธีรำหน้ากากครั้งสำคัญ ต่อหน้ารินโปเช มีชาวบ้านมาร่วมชมด้วย ทาชิสวมหน้ากากเป็นหนึ่งในคณะผู้รำ เขาอยู่ลานการแสดง แต่กลับนั่งแน่นิ่งไม่ได้ร่วมรำ เขาจ้องมองไปที่สตรีที่กำลังให้นมบุตรอยู่ อโปเห็นเหตุการณ์จึงส่ายหน้า ก่อนใส่หน้ากากเข้าไปกลางลานแสดง เพื่อพาทาชิออกมาจากเหตุการณ์
ทันทีที่ไฟแห่งกามราคะที่พลุ่งพล่านอัดแน่นอยู่ภายในทาชิ ได้ปะทะเข้ากับเชื้อเพลิงเป็นครั้งแรก จึงเกิดอาการช็อค |
30.42 | อโปพาทาชิ ไปร่วมในพิธีสวดมนต์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพิธีนั้นเอง ขณะมีหญิงสาวมารินน้ำให้กับผู้เฒ่าผู้แก่ เพียงแค่เสียงกำไลข้อมือของหญิงสาว ก็ทำให้ทาชิ หลุดออกจากสมาธิในการสวดมนต์ อโปถึงกับต้องกระแอมออกมาดังๆ เพื่อให้ทาชิ กลับมารู้สึกตัว ทำให้เห็นถึงธรรมชาติกระบวนการปรุงแต่งของจิตที่ไว้มาก |
33.18 | ทาชิ ได้พบกับ หญิงสาวสวยคนหนึ่ง (เธอชื่อ เพ-ม่า) ทั้งคู่เกิดความรู้สึกต้องตาต้องใจกันในทันที ในคืนนั้นเอง ทาชิ ได้ฝันว่าได้ร่วมหลับนอนกับเธอ และ พึงพอใจในความรู้สึกนั้น |
36.53 | ในค่ำคืนหนึ่ง โซนามถึงกับ ช็อคและน้ำตาไหลออกมา เมื่อพบว่า ทาชินอนจมอยู่ในฝันแห่งกามารมณ์ นั่นทำให้เขาไม่สบตากับทาชิอีกในวันรุ่งขึ้น อโปสังเกตเห็นโซนาม จึงทราบได้ว่า อาชิ ยังคงถูกไฟแห่งกามราคะรุมเร้า |
38.38 | ในขณะที่ทาชิกำลังเก็บพระคัมภีร์เข้าชั้น อโปเดินเข้ามา แล้วยกพระคัมภีร์ออกจากชั้น ทาชิพูดว่า ท่านเห็นมั๊ย แม้แต่ท่านก็โกรธข้าเหรอ
ทุกคนเป็นครูของเราได้ หากมองเห็นจะพบว่า แม้แต่กิเลสในใจเราเอง ก็ยังเป็นครู นำทางให้เราเกิดปัญญา |
39.43 | อโปมอบแผนที่ให้แก่ทาชิ เพื่อออกเดินทางไปพบลามะที่ชำนาญการรักษากิเลสทางกามารมณ์
ทาชิออกเดินทางด้วยม้า พร้อมด้วยสุนัขที่ชื่อกาลา กาลาช่วยนำทางให้ทาชิ ได้พบประตูทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่ง ทาชิได้พบกับลามะเฒ่าผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำ ลามะเฒ่าให้ทาชิได้เพ่งพิจารณาภาพวาดการร่วมเพศของหนุ่มสาวในอิริยาบถต่างๆ และ เมื่อนำภาพไปอังไฟ ภาพเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นโครงกระดูก ทาชิได้เพ่งพิจารณาภาพแล้วภาพเล่า จนถึงภาพสุดท้าย ก็คือภาพการนั่งภาวนา เมื่อนำไปอังไฟ ภาพนั้นก็ได้กลายเป็นโครงกระดูกเช่นกัน สุดท้ายลามะเฒ่าได้คลี่ อักษรภาพ เขียนว่า “Everything you contact is a place to practice the Way” กาลา สุนัขผู้นำทาง เป็นนัยยะที่แทนว่า ความทุกข์ หรือ กิเลส นั่นแหละ นำทางไปสู่หนทาง นำทางไปสู่ปัญญา “ทุกที่ที่สัมผัส คือ สถานที่ฝึก” นั่นอาจเป็นการชี้ทางให้ทาชิ ได้ฝึกฝน จากสัมผัสต่างๆ แม้เป็นที่เกิดแห่งกามารมณ์ก็ตาม |
47.47 | ทาชิ ควบม้ากลับวัดอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ถึงวัดก็ถามหาอโป และ ตรงเข้าไปพบโดยทันที อโปกำลังนั่งเป่าแตรต่อหน้าพระประธานองค์ใหญ่ ทาชิ พูดออกมาว่า … มีสิ่งที่เราต้องละเพื่อที่จะเรียนรู้ และ มีสิ่งที่เราต้องรู้เพื่อที่จะละ เมื่อทาชิพูดจบ ก็เดินจากอโปออกไป |
50.42 | อโป บอกกับทาชิว่า ฝันที่หวนกลับมาจากหมู่บ้านไม่ใช่ฝัน ฝันที่หวนกลับมาให้คิดถึง ให้พึงพอใจ แม้ในยามตื่น ไม่ใช่ความฝัน |
53.20 | ในค่ำคืนนั้นเอง ทาชิ ตัดสินใจเก็บสัมภาระออกจากวัด เขามองทุกคนที่กำลังหลับใหลอย่างช้าๆ แทนการร่ำลา เขาออกจากประตูวัดพร้อมม้าตัวหนึ่ง และ สุนัขที่ชื่อกาลา เขาหันกลับมามองวัดอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจควบม้าออกไปอย่างรวดเร็ว สุนัขที่ชื่อกาลายังคงตามเขาไปด้วย |
54.40 | เมื่อเขาเดินทางมาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง เขาได้ถอดจีวรที่สวมใส่ออก เดินลงไปในแม่น้ำแบบตัวเปล่าเล่าเปลือย ก่อนกลับขึ้นมานุ่งชุดแบบคฤหัสถ์ กาลาเห่าทาชิที่บัดนี้ ได้สวมใส่ชุดแบบคฤหัสถ์ สักพักมันก็ได้วิ่งจากเขาไป |
57.57 | ณ หมู่บ้าน ในเช้าวันหนึ่งพ่อของเพ-ม่า ได้วานให้เพ-ม่านำอาหารไปให้กับคนงานใหม่ ที่มาช่วยงาน เมื่อเพ-ม่ามาถึง ก็พบว่าคนงานใหม่ก็คือ ทาชิ ซึ่งบัดนี้มาเป็นคฤหัสถ์ และ มาเป็นคนงานให้กับพ่อของเธอในหมู่บ้าน เพ-ม่าเกิดความรู้สึกผิด เพราะคิดว่า สาเหตุที่ทาชิ ละทิ้งสมณเพศมานั้น อาจเป็นเพราะเธอ แต่ไม่ว่าอย่างไร ทั้งคู่ก็ได้เสพสมอารมณ์หมายในการกลับมาพบกันตั้งแต่วันแรก แต่เรื่องราวนั้นก็เป็นความลับได้ไม่นาน พ่อแม่ รวมถึง จามายอง แฟนหนุ่มของเพ-ม่า ได้รู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเพ-ม่า และ ทาชิ การแต่งงานระหว่างเพ-ม่า และ ทาชิ จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเพ-ม่าก็ท้อง |
1.17.15 | ทาชิ พบว่า เทวา พ่อค้าเจ้าประจำที่มารับซื้อผลผลิตจากหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ โกงตาชั่ง เขาจึงทำความจริงให้กระจ่าง ทำให้พ่อค้าเกิดความไม่พอใจ และ ไม่รับซื้อผลผลิตของหมู่บ้านอีก
เทนซินพ่อของเพ-ม่า โกรธเขาอย่างรุนแรง เมื่อผลผลิตของหมู่บ้านเหลือตกค้างจำนวนมาก ทาชิไม่ได้รู้สึกผิด เขาเชื่อว่าจะสามารถเข้าไปขายผลิตในเมืองได้หมด เขาตั้งใจสอนให้ให้พ่อค้าได้สำนึก |
1.18.17 | เพ-ม่าในขณะนี้เธอตั้งครรภ์ท้องโต ได้เตรียมสำรับกับข้าวอย่างใส่ใจ พร้อมวางลูกประคำบนกล่องข้าว แล้วห่อรวมในถุงผ้าสีชมพูมอบให้กับทาชิ ที่กำลังออกเดินทางไปเข้าในเมืองเพื่อขายผลิตของหมู่บ้าน
เมื่อถึงในเมือง เขาสามารถขายผลผลิตได้ราคาดีกว่าที่ขายให้กับ เทวา แต่หารู้ไม่ว่ากำลังได้ก่อศัตรู การเตรียมกล่องข้าว มอบให้กับทาชินั้น แทนถึงความรัก ความใส่ใจ และ การร่วมเดินทางไปกับทาชิด้วย |
1.25.00 | เมื่อเขากลับมาจากเมือง เพ-ม่าก็ได้คลอดลูกชาย และ ถูกตั้งชื่อว่ากัมมะ (Karma) |
1.30.06 | ลมหนาวย่างกลายเข้ามา กัมมะเติบโตขึ้นเป็นเด็กน้อย ในระหว่างมื้ออาหารค่ำ กัมมะเริ่มมีคำถามเกี่ยวกับการกินเนื้อแพะ เราไม่ควรฆ่าสัตว์ แม้แต่แมลง แต่ทำไมเรายังกินเนื้อสัตว์ เขาถามไปที่ทาชิ จนเพ-ม่าต้องบอกให้หยุดถาม เขางอนและออกไปนอกบ้าน ทาชิ ตะโกนให้เขาสวมเสื้อกันหนาว เพ-ม่าบอกกับทาชิว่า ปล่อยเขาไป ไม่ต้องปกป้องมากเกินไป ความหนาวจะทำให้ กัมมะ กลับมาเอง สักพักเดียวเท่านั้น ก็ได้ยินเสียง กัมมะ ร้องไห้ และ วิ่งกลับมานั่งตักแม่ ทาชิ และ เพ-ม่า จึงช่วยกันปัดหิมะ และ ห่มผ้าหนาๆให้ |
1.32.45 | ทาชิหลับอยู่ริมลำธาร พบสาวคนงานในหมู่บ้านมาล้างเนื้อล้างตัว เขาแอบมองสาวคนงาน และ ดูเหมือนว่าเธอก็จงใจให้เขามองด้วย เป็นหนึ่งในหลายต่อหลายครั้งที่ทาชิรู้สึกเช่นนั้น |
1.33.40 | ทาชิ เพ-ม่า และ เด็กๆ 3 คน อยู่ริมลำธาร ทาชิออกอาการโวยวายเล็กๆ กับเพ-ม่า เขารู้สึกว่า เรามีแรงงานอพยพมากเกินไป สื้นเปลืองค่าแรงโดยไม่จำเป็น
เพ-ม่าหยิบกิ่งไม้เล็กๆ ขึ้นมา มองไปที่เด็กๆ และ ถามเด็กๆ ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับกิ่งไม้นี้ จากนั้นก็ทิ้งกิ่งไม้ลงไปในรำธาร กิ่งไม้ก็ไหลไปตามกระแสน้ำ เด็กๆ และ เพ-ม่าวิ่งตามไปดูกิ่งไม้นั้น เด็กๆตะโกนตอบ บ้างก็ว่ามันจะจม บ้างก็ว่ามันจะหยุดติดอยู่ในก้อนหิน บ้างก็ว่ามันจะไม่หยุด ทาชิได้แต่วิ่งตามมา และ ยังคงพูดว่าเราไม่จำเป็นต้องมีคนงานทั้งหมด เพ-ม่าถามให้ทาชิ คิดดูว่า อะไรจะเกิดขึ้นทันทีที่ เราไล่คนงานที่ยากจนออก เด็กๆตะโกนสวนมาว่า กิ่งไม้ยังคงไหลไปกับน้ำ และ เปื่อย เด็กอีกคนบอกว่า มันจะหยุดอยู่ตรงวังน้ำวน หรือ ไม่ก็ไหลลงไปกับน้ำตกแล้วก็หัก เพ-ม่าถามต่อไปว่า ถ้าสิ่งที่คิดมันไม่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ยอมรึป่าว? คำตอบก็คือ กิ่งไม้จะไหลไปยังทะเล |
1.36.39 | กัมมะ ถือของเล่นที่ซื้อมาจากเมือง เขาถามทาชิว่า ตอนเป็นเด็กทำอะไร เพ-ม่าตอบแทนไปว่า เขาเล่นของเล่นที่ทำเอง แล้วก็คว้าของเล่นที่ซื้อมาจากเมืองโยนทิ้งไป
ฉากนี้ แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำชุมชนของเพ-ม่า ที่พยายามปกป้องวิถีชีวิตแบบธรรมชาติจากระบบทุนนิยม |
1.38.05 | จามายองชวนเทวามาซื้อผลผลิตในหมู่บ้าน แต่ทาชิเข้าห้ามจามายอง เทวาไม่แยแสแม้แต่น้อย หยุดการซื้อขายและจากไป พร้อมกับความเกรี้ยวกราดที่มากขึ้นกว่าเดิม จามายองตะโกนใส่ทาชิว่า “Everything you touch, you ruin!” ทุกสิ่งที่คุณสัมผัสคุณทำลาย!
ในคืนนั้นเอง พื้นที่พืชผลของทาชิ ก็ถูกเผามอดวอดวายไปเกือบครึ่ง คนในหมู่บ้านทั้งหมดมาช่วยกันดับไฟ ทาชิคิดว่าเป็นผลงานของจามายอง แต่เขาก็ปฏิเสธ เขาควบม้าออกไปอย่างรุ่มร้อน ยิ่งกว่าที่เคยกล่าวว่าจามายองว่าเป็นคนใจร้อน เขาไปที่โกดังของเทวาเพียงลำพัง ทำลายข้าวของ แต่แล้วก็ถูกซ้อมเจ็บน่วมบางตาย แถมเทวายังยืนยันว่า เขาไม่ได้เป็นคนเผา จามายองไม่ได้ตั้งใจที่จะขายผลผลิตให้เทวา แต่เขาต้องการสร้างมิตรภาพ แต่ทาชิกลับไม่เข้าใจ มองแต่เพียงความถูกต้อง และ ราคาที่คุ้มค่ากว่าหากไปขายเองในเมือง “ทุกสิ่งที่คุณสัมผัสคุณทำลาย!” การสัมผัสรับรู้อารมณ์ภายในอย่างกลบเกลื่อน บิดเบือน |
1.48.08 | ทาชิ เตรียมสำรับอาหารใส่กล่องข้าว วางลูกประคำด้านบน พร้อมห่อรวมด้วยถุงผ้าสีชมพู มอบให้กับ เพ-ม่า ที่กำลังจะออกเดินทางไปขายผลผลิตพืชผลกับ กัมมะ ในเมืองแทนเขาที่บาดเจ็บ
ในระหว่างนั้นเอง สาวคนงานก็ได้มาเก็บเงินค่าแรงที่บ้านตามเคย แต่เมื่อสบโอกาสที่ทาชิอยู่คนเดียว ทั้งคู่จึงถาโถมเข้าใส่กันด้วยไฟแห่งกามราคะ เพียงไม่นานเพ-ม่าก็กลับมา ทาชิเกิดอาการร้อนรน เขารีบเร่งไล่สาวคนงานออกไปอย่างไม่แยแส แต่สาวคนงานกลับไม่รู้สึกตื่นเต้น เพราะเพ-ม่าเคยบอกกับเธอเองว่า สักวันจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เห็นถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน จากไฟแห่งกามราคะที่กำลังลุกโชน กลายเป็นความกลัว เพื่อที่จะปกปิดบางอย่าง เปรียบดังภพภูมิแห่งอสุรกายที่เต็มไปด้วยความกลัว |
1.55.12 | ทาชิออกไปสงบสติอารมณ์เงียบๆ บนเนินเขา ไม่ห่างจากหมู่บ้าน ระหว่างนั้นเอง เขาได้มองเห็นโซนามควบม้ามาหาเขา โซนามมาแจ้งข่าวการมรณภาพของอโป ผู้เป็นอาจารย์ของเขา โซนามมอบจดหมายที่อโป ได้เขียนฝากไว้ให้กับทาชิก่อนจากไป ทาชิเปิดอ่านในทันที “ฉันตระหนักรู้ว่า งานของฉันยังไม่จบ ดังนั้น ฉันจะกลับมายังสังสาร (samsara) ฉันรู้ว่าเราจะพบกันอีกครั้ง บางที คุณจะสามารถบอกฉันได้ว่า อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่าง ความพอใจหนึ่งพันปรารถนา หรือ การชนะเพียงหนึ่ง”
เมื่อทาชิเดินกลับมายังบ้านอย่างซึมเซา นิ่งเงียบ และ ครุ่นคิด เพ-ม่ารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปของทาชิ ในช่วงเวลานั้นเอง ทาชิเหลือบมองเห็น สาวคนงานมาขอลาออกกับเพ-ม่า ขณะนี้ ทาชิกำลังเผชิญอารมณ์ต่างๆมากมาย ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เรียงกัน Satisfying one thousand desires or conquering just one. “ความพอใจหนึ่งพันปรารถนา หรือ การชนะเพียงหนึ่ง” ทาชิทราบซึ้งในความเมตตาของอาจารย์ที่มีต่อศิษย์ คำสอนสุดท้าย เพื่อให้ศิษย์ได้ก้าวเดินทางต่อในมรรคา ได้ถูกมอบให้ศิษย์ในเวลาที่ใช่ เห็นถึงจังหวะของอารมณ์ที่ถาโถม แปรปรวน รวดเร็ว จนกำลังจะนำไปสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญ |
2.00.25 | ในคืนนั้นเอง ทาชิ ตัดสินใจเก็บสัมภาระข้าวของ มองไปที่ภรรยา และ ลูกชายที่กำลังนอนหลับอยู่ เขาสัมผัสที่แก้มของลูกชาย และ จัดแต่งหมอนของตัวเองที่อาศัยนอนมาอย่างยาวนาน ให้เรียบร้อย เข้าที่เข้าทาง ก่อนออกเดินทางออกจากบ้านไปในยามรุ่งเช้า
เมื่อมาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง เขาได้ถอดชุดที่สวมใส่ออก และ เดินลงไปในแม่น้ำ พร้อมกลับขึ้นมาโกนผม บัดนี้ เขาได้กลับมาสวมชุดลามะ และ หยิบกระจกเงาที่แตกร้าวออกมาส่องดูใบหน้าของตนเอง กระจกเงาที่แตกร้าว อาจหมายถึง การเห็นทุกข์ หรือ ได้มองเห็นตัวเองในมุมมองใหม่ อย่างที่ทาชิเคยกล่าวต่อหน้าพระประธานและอโป ก่อนที่ตัดสินใจออกมาเป็นคฤหัสถ์ บัดนี้ เขาได้สัมผัสถึงโทษภัยจากตัณหาที่ไร้การสิ้นสุด และ ยากที่จะควบคุม |
2.04.45 | ทาชิเดินเท้ามาถึงเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ และ ได้พบว่าเพ่ม่าควบม้ามาถึงก่อน และยืนรออยู่ เพ-ม่าพูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก เปรียบประหนึ่งว่าตนเป็นพระนางพิมพายโสธรา ในวันที่เจ้าชายสิทธัตถะตัดสินใจจากออกผนวช ผู้เป็นแม่ไม่อาจจากลูกไป การบวชเป็นไปสำหรับผู้ชายเท่านั้น ทาชิได้ฟังนางพรรณนา ถึงกับทรุดเข่าลงร่ำไห้กับพื้นดิน บนพื้นดิน ที่มีมดจำนวนมาก กำลังเดินขวักไขว่ไปมาอยู่บนผิวดิน
เพ-ม่าพูดต่อว่า “ถ้าการแสวงหาโมกขธรรมของท่าน คือ ความแรงกล้า เฉกเช่นความรัก และ ความปรารถนาที่ท่านได้แสดงต่อฉัน ท่านจะกลายเป็น พุทธะในมนุษย์อันมากมายนี้ ในสิ่งมีชีวิตอันมากมายนี้” ทาชิได้ฟังดังนั้นแล้วก็บอกว่าจะขอกลับไปอยู่กับเธอ แต่เพ-ม่า ทิ้งหอข้าวที่เตรียมมาลงตรงหน้าให้กับทาชิ แล้วก็หายวับไป ทาชิน้ำตายังไม่หยุดไหล จึงสะอื้นขึ้นมาอีกหน พร้อมกับสัมผัสไปที่หอข้าวนั้น แล้วค่อยๆ คลายถุงผ้าออก สิ่งที่พบก็ คือ ลูกประคำวางบนกล่องข้าว ทาชิ ใคร่ครวญสักครู่ ก็ได้ร้องไห้ออกมาอย่างท่วมท้น ล้มตัวลงนอนกับพื้นดิน การบรรลุเพื่อตน ไม่ใช่การบรรลุ เราไม่อาจบรรลุธรรม ด้วยการกระทำอะไรต่อมิอะไร เพื่อตัวตนของตัวเอง ถึงตรงนี้ คิดถึงจดหมายของอโป ที่เขียนไว้ว่า เราจะพบกันอีก ตกลงว่าเพ-ม่า ผู้นี้คือใคร? ผู้ที่วางลูกประคำบนกล่องข้าว รับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าทาชิจะนอกใจ เริ่มแน่ชัดว่า เพ-ม่า เป็นคนสอนธรรมให้กับทาชิ เฉกเช่น อโป |
2.13.58 | ทาชิ ลุกขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำตาที่แห้งเหือด เขาเดินเท้าเปล่า มุ่งตรงไปยังหินที่สลักตัวอักษรว่า “How can one prevent a drop of water from ever drying up?” เขายกก้อนหินนั้นขึ้นมา และ พลิกไปดูที่ด้านหลังก็พบกับตัวอักษรที่สลักเอาไว้ว่า “By throwing it into the sea…” เขาเงยหน้าขึ้นมองดูบนฟ้า เห็นเหยี่ยวบินวน และ หายลับไปในก้อนเมฆ
ปกป้องน้ำหนึ่งหยดจากการแห้งเหือดได้อย่างไร ? คำตอบ คือ โดยการโยนมันลงไปในทะเล การหายลับไปของเหยี่ยว อันเป็นตัวแทนแห่งความตาย หมายถึง การพ้นจากสังสาร หรือ Samsara |